เมนู

อัพยากตนิเทศ


อเหตุกกุศลวิบากจิต 8


อเหตุกกุศลวิบากจิตดวงที่ 1


[372] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน ?
จักขุวิญญาณ เป็นวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา มีรูปเป็นอารมณ์เกิด
ขึ้น เพราะกามาวจรกุศลกรรม อันได้ทำไว้แล้ว ได้สั่งสมไว้แล้วในสมัยใด
ในสมัยนั้น วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย นามเกิดเพราะวิญญาณเป็น
ปัจจัย อายตนะที่ 6 เกิดเพราะนามเป็นปัจจัย ผัสสะเกิดเพราะอายตนะที่ 6
เป็นปัจจัย เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย ภพเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย
ชาติเกิดเพราะภพเป็นปัจจัย มรณะเกิดเพราะชาติเป็นปัจจัย ความเกิดขึ้น
แห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้.
[373] ในปัจจยาการเหล่านี้ สังขาร เป็นไฉน ?
การคิดอ่าน กิริยาที่คิดอ่าน ความคิดอ่าน อันใด นี้ เรียกว่าสังขาร
วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย เป็นไฉน ?
จิต มโน มานัส ฯลฯ จักขุวิญญาณธาตุสมกัน อันใด นี้เรียกว่า
วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย
นามเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย เป็นไฉน ?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ นี้เรียกว่า นามเกิดเพราะ
วิญญาณเป็นปัจจัย

อายตนะที่ 6 เกิดเพราะนามเป็นปัจจัย เป็นไฉน ?
จิต มโน มานัส ฯลฯ จักขุวิญญาณธาตุที่สมกัน อันใด นี้เรียกว่า
อายตนะที่ 6 เกิดเพราะนามเป็นปัจจัย
ผัสสะเกิดเพราะอายตนะที่ 6 เป็นปัจจัย เป็นไฉน ?
การกระทบ กิริยาที่กระทบ กิริยาที่ถูกต้อง ความถูกต้อง อันใด
นี้เรียกว่า ผัสสะเกิดเพราะอายตนะที่ 6 เป็นปัจจัย
เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย เป็นไฉน ?
ความสบายทางใจก็ไม่ใช่ ความไม่สบายทางใจก็ไม่ใช่ ความเสวย-
อารมณ์ที่ไม่ทุกข์ไม่สุขอันเกิดแต่เจโตสัมผัส กิริยาเสวยอารมณ์ที่ไม่ทุกข์ไม่สุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส อันใด นี้เรียกว่า เวทนาเกิดพระผัสสะเป็นปัจจัย
ภพเกิดเพราะเป็นเวทนาเป็นปัจจัย เป็นไฉน ?
สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ เว้นเวทนา นี้เรียกว่า ภพ
เกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย ฯลฯ
ด้วยเหตุนั้น จึงเรียกว่า ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมี
ด้วยประการอย่างนี้.
[374] ในสมัยนั้น วิญญาณมีสังขารเป็นเหตุ เกิดขึ้นเพราะสังขารเป็น
ปัจจัย นามมีวิญญาณเป็นเหตุ เกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย อายตนะที่ 6 มี
นามเป็นเหตุ เกิดเพราะนามเป็นปัจจัย ผัสสะมีอายตนะที่ 6 เป็นเหตุ เกิด
เพราะอายตนะที่ 6 เป็นปัจจัย เวทนามีผัสสะเป็นเหตุเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย
ภพเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย ชาติเกิดเพราะภพเป็นปัจจัย ชรามรณะเกิด

เพราะชาติเป็นปัจจัย ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีประการ
อย่างนี้.
[375] ในสมัยนั้น วิญญาณอันสัมปยุตด้วยสังขารเกิดเพราะสังขาร
เป็นปัจจัย นามอันสัมปยุตด้วยวิญาณเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย อายตนะ
ที่ 6 อันสัมปยุตด้วยนามเกิดเพราะนามเป็นปัจจัย ผัสสะอันสัมปยุตด้วยอายตนะ
ที่ 6 เกิดเพราะอายตนะที่ 6 เป็นปัจจัย เวทนาอันสัมปยุตด้วยผัสสะเกิดเพราะ
ผัสสะเป็นปัจจัย ภพเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย ชาติเกิดเพราะภพเป็นปัจจัย
ชรามรณะเกิดเพราะชาติเป็นปัจจัย ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อม
มีด้วยประการอย่างนี้.
[376] ในสมัยนั้น วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย สังขารเกิด
แม้เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย วิญญาณเกิด
แม้เพราะนามเป็นปัจจัย อายตนะที่ 6 เกิดเพราะนามเป็นปัจจัย นามเกิด
แม้เพราะอายตน่ะที่ 6 เป็นปัจจัย ผัสสะเกิดเพราะอายตนะที่ 6 เป็นปัจจัย
อายตนะที่ 6 เกิดแม้เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย
ผัสสะเกิดแม้เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ภพเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย ชาติเกิด
เพราะภพเป็นปัจจัย ชรามรณะเกิดเพราะชาติเป็นปัจจัย ความเกิดขึ้นแห่ง
กองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้.

อเหตุกกุศลวิบากจิตดวงที่ 2-3-4-5


[377] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน ?
โสตวิญญาณ เป็นวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา มีเสียงเป็นอารมณ์
เกิดขึ้น ฯลฯ ฆานวิญญาณ เป็นวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา มีกลิ่นเป็น